บทที่ 7
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อชีวิต
เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทเข้ามาเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคนตั้งแต่การเรียนรู้
การประกอบอาชีพ การดูแลรักษาสุขภาพ การพักผ่อนหย่อนใจ
จึงทำให้ทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษา
1.e-Laerning
การพัฒนาการศึกษาโดยทำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าประยุกต์เพื่อให้เกิดรูปแบบการศึกษาแบบใหม่ที่สามารถรับรองรูปแบบการศึกษาด้วยตนเอง
การศึกษาตลอดชีวิต การนำคอมพิวเตอร์และเครือข่ายการสื่อสารโดนเฉพาะอินเทอร์เน็ตมาเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความสะดวกสบายในการเรียนรู้
การวัดผล และการจัดการศึกษาเพื่อทดแทนหรือสนับสนุนการศึกษาแบบเดิม
ตัวแบบการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์แบบผสมผสานประกอบด้วย
11.e-laerning map การเรียนโดยการออกแบบแผนที่การเรียนเฉพาะบุคคลซึ่งใช้ข้อมูลจากการทดสอบเบื้องต้น
22. on-line e-laerning มี 2 ตัวเลือก
คือ การถ่ายทอดกับการถ่ายข้อมูลลงแบบออนไลน์
33. e-laerning group ทรัพยากรในชุมชนการเรียนรู้
แลกเปลี่ยนกันได้โดยใช้เครื่องแม่ข่ายของกลุ่มข่าว เป็นการสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนในการปฏิสัมพันธ์หรือแลกเปลี่ยนข่าวสารได้ทั้งภาพและเสียง
44. e-comprehension กระบวนการเรียนรู้ผ่านการสร้างสถานการณ์
กรณีศึกษา โดยใช้ข้อความหลายมิติ เว็บไซต์ มัลติมีเดีย คำถาม และอื่นๆ
55. e-illustration การใช้ภาพประกอบ แผนภาพ และมัลติมีเดีย
เพื่อเป็นการยกตัวอย่างประกอบอธิบายให้ชัดเจน
66. e-workgroup แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มต่างๆ
และจัดกิจกรรมทั้งภายในและระหว่างกลุ่มเพื่อให้ได้ผลการเรียนรู้ร่วมกัน
2 2. มัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้
มัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ หมายถึง
การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ถ่ายทอดหรือนำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอน ที่บูรณาการหรือผสมผสานสื่อหลากหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกันได้แก่
ข้อความ ภาพนิ่ง เสียง นำเสนตามขั้นตอนกระบวนการเรียนการสอนได้ 9 ขั้นดังนี้
1.
การกระตุ้นหรือเร้าความสนใจให้พร้อมในการเรียน
2.
การแจ้งวัตถุประสงค์ของการเรียน
3.
การบททวนและกระตุ้นให้ระลึกถึงความรู้เดิม
4.
การนำเสนอสิ่งเร้าหรือเนื้อหาและความรู้ใหม่
5.
การแนะแนวทางการเรียนรู้
6.
การกระตุ้นการตอบสนองหรือแสดงความสามารถ
7.
การให้ข้อมูลป้อนกลับ
8.
การทดสอบความรู้หรือการประเมินผลการแสดงออก
9.
การส่งเสริมความจำหรือความคงทน
และการนำไปใช้หรือถ่ายโอนการเรียนรู้
3.Virtual Classroom
ห้องเรียนเสมือนเป็นห้องเรียนที่สามารถรองรับชั้นเรียนได้ในเวลาและสถานที่ซึ่งผู้เรียนกับผู้สอนไม่ได้อยู่ร่วมกันในสถานที่เดียวกัน
คุณลักษณะคือการสนับสนุนการประเมินผลและการเข้ามีส่วนร่วมในการสื่อสารด้วยเครื่องมือต่างๆ
4.Mobile Technology
โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถรองรับทั้งการรับ-ส่งข้อมูลด้วยเสียงและข้อความ โดยจำกัดข้อจำกัดด้านความสามารถของการส่งเนื้อหาที่เป็นวิดีโอได้
สามารถนำมาเชื่อมต่อได้ทั้งเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว เสียง สามารถแปลงเข้าสู่อุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับสังคม
1.การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานสาธารณสุข
เทคโนโลยีสารสนเทศมีความเป็นไปได้ในการปรับปรุงคุณภาพ ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการให้บริการสาธารณสุข
เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนำมาประยุกต์กับการให้บริการด้านสาธารณสุขเพื่อรวบรวม
จัดเก็บ ค้นคืน และถ่ายโอนข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้
2.การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับศาสนา ศิลปวัฒนธรรม
1. ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม
ได้แก่ บุคคล องค์กรทางวัฒนธรรม
2. บริการรับคำร้องและให้บริการงานด้านภาพยนตร์และวิดีโอทัศน์
3. บริการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและเผยแพร่ข้อมูลทางศาสนา ของกรมศาสนา
4. บริการข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมและงานแสดงด้านวัฒนธรรม สุนทรีย์
5. บริการสารสนเทศภูมิศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอย่างบูรณาการ
6. บริการข้อมูลของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
7. บริการข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์มรดกโลก
3. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งได้มีการวางแผนยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของกระทรวงฯ
รวมทั้งการจัดทำเว็บไซต์การเผยแพร่ข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นช่องทางในการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประชาชน
4. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานบริการสังคม
การพัฒนาระบบบริการภาครัฐได้มีการให้บริการสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาให้บริการความรู้และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่ประชาชนได้รับจากภาครัฐ
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับธุรกิจ
1.e-Commerce
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ในทุกช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื่อขายสินค้าและบริการ
2.e-Marketing
การตลาดอิเล็กทรอนิกส์
การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
ที่ทันสมัยและสะดวกต่อการใช่งานที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาผสมผสานกับวิธีการทางการตลาด
เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กรอย่างแท้จริง
3.M-Commerce
กิจกรรมเชิงพาณิชย์ การบริการข่าวสาร
การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านอุปกรณ์และเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
การตลาดด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่จัดเป็นกลยุทธ์ด้านการตลาดแนวใหม่ที่นำเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่มาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับกลุ่มเป่าหมายได้อย่างใกล้ชิด
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับภาครัฐ
รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
จัดเป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้เป็นเครื่องมือของรัฐในการบริหารจัดการตามนโยบายและการให้บริการสู่ประชาชนเป็นหน้าที่ของรัฐที่พึงตอบสนองต่อเทคโนโลยีใหม่และสิ่งแวดล้อมใหม่ที่จะเกิดขึ้น
ประโยชน์ของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
1.
การพัฒนาการเข้าถึงข้อมูลและบริการที่ดีกว่าเดิมของประชาชน
โดยบริการเป็ดเสร็จ ณ
จุดเดียวและมีช่องทางการสื่อสารที่มาขึ้นโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์มาเสริม
2.
ปรับปรุงคุณภาพของการบริการ
โดยสร้างความน่าเชื่อถือให้ดีกว่าเดิม เพื่อความรวดเร็ว
สร้างความโปร่งใสของการให้บริการ
3.
การจัดการกระบวนการที่ดีขึ้น
โดยเพิ่มกระแสสารสนเทศให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น และมีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนในงานต่างๆ
4.
มีระบบที่ดีขึ้น โดยมีเครื่องมือในการวิเคราะห์การบริการจัดการ
การสนับสนุนการตัดสินใจของผู้ดำเนินการ
5.
การกระจายอำนาจไปสู่ประชาชน
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานบริการ
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการประยุกต์สำหรับงานบริการนั้น
ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิดรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ
ที่สอดคล้องและตอบสนองความต้องการใหม่ๆของผู้ใช้งาน
แนวโน้มการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 2 องค์ประกอบ คือ เทคโนโลยีเพื่อการประมวล คือ ระบบคอมพิวเตอร์
และเทคโนโลยีเพื่อการเผยแพร่ คือระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีอื่นๆ
1.ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์
และซอฟแวร์ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีแนวโน้มการใช้งานดังนี้
1.1 ฮาร์ดแวร์
1.2 ซอฟแวร์
1.3 คลาวด์คอมพิวติ้ง
2.ระบบสื่อสารโทรคมนาคม
2.1 เครือข่ายสังคมออนไลน์ หมายถึงเว็บไซต์ให้บริการผู้ใช้ให้สามารถสร้างเว็บ
โฮมเพจของตน
2.2 โซเชียลคอมเมิรซ์
คือการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในการค้าขาย
3.นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า
3.1 การสร้างพลังงานขึ้นเองเพื่อใช้ภายในบ้าน
3.2 มนุษย์จะใช้เสียงพูด
ใบหน้าและดวงตาแทนรหัสผ่าน
3.3 มนุษย์สามารถใช้สมองสั่งงานแลปท็อป (laptop)
และโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้
3.4 ทุกคนสามารถเข้าข้อมูลต่างๆ
ได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยเทคโนโลยีโมบาย
3.5 คอมพิวเตอร์จะคัดกรองข้อมูลสำคัญให้สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้ใช้
การปฏิรูปการทำงานกับการใช้ข่าวสารบนฐานเทคโนโลยีในอนาคต
1.การปฏิรูปการทำงานกับการใช่ข่าวสารบนฐานเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
1.1 การปฏิรูปรูปแบบการทำงานขององค์กร
เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการปฏิรูปรูปแบบของการทำงาน เช่น
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสื่อสารกันในองค์กรด้วย อีเมล กรุ๊ปแวร์
1.2 มีการจัดการเชิงกลยุทธ์
เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนำมาใช้ในการสนับสนุนการจัดการเชิงกลยุทธ์ขององค์กรเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
1.3 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการทำงาน
เพื่อให้การทำงานคล้องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1.4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างคุณค่าให้กับองค์กรในอนาคตเทคโนโลยีสารสนเทศจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับองค์กร
2.การปรับตัวขององค์กรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง
การพัฒนาเทคโนโลยีขององค์การจะขึ้นอยู่กับผู้บริการเป็นสำคัญ
โดยที่ผู้บริหารองค์กรจะต้องเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้
2.1
ทำความเข้าใจต่อบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อธุรกิจปัจจุบัน
เพื่อให้สามารถนำความรู้ต่างๆมาประยุกต์ใช้กับงานที่กำลังทำอยู่
2.2 วางแผนระบบสารสนเทศ
เองให้การดำเนินการสร้างหรือพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นไปตามวัตถุประสงค์ขององค์กรภายใต้งบประมาณและระยะเวลาที่กำหนดไว้
2.3
พัฒนาระบบสารสนเทศเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลหรือความรู้ขององค์กรนักวิเคราะห์ระบบและผู้ใช้จะศึกษาหรือพิจารณาถึงข้อมูลและข่าวสารต่างๆ
ที่องค์กรต้องการและใช้ในการดำเนินงานอยู่ประจำ
2.4 พัฒนาศักยภาพของบุคคลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้มีความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี
คำถามท้ายบทที่ 7
1. เทคโนโลยีสารสนเทศด้านสาธารณสุขมีความสำคัญกับการให้บริการประชาชนอย่างไง
ตอบ เทคโนโลยีสารสนเทศมีความเป็นไปได้ในการปรับปรุงคุณภาพ
ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการให้บริการสาธารณสุข
เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนำมาประยุกต์กับการให้บริการด้านสาธารณสุขเพื่อรวบรวม
จัดเก็บ ค้นคืน และถ่ายโอนข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้
2. จงอธิบายแนวโน้มการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในอนาคต
ตอบ 1. มนุษย์จะใช้เสียงพูด ใบหน้าและดวงตาแทนรหัสผ่าน
2. มนุษย์สามารถใช้สมองสั่งงานแลปท็อป
(laptop) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้
3. ทุกคนสามารถเข้าข้อมูลต่างๆ
ได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยเทคโนโลยีโมบาย
4. คอมพิวเตอร์จะคัดกรองข้อมูลสำคัญให้สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้ใช้
3. จงอธิบายแนวโน้มระบบสื่อสารโทรคมนาคม
ตอบ โทรคมนาคม ( Telecommunications)
หมายถึง
การสื่อสารข้อมูลระยะทางไกลในรูปแบบสัญญาณอีเล็กทรอนิกส์
ซึ่งในอดีตระบบโทรคมนาคมให้บริการในรูปแบบของสัญญาณเสียงผ่านสายโทรศัพท์ที่เรียกกันว่าสัญญาณในระบบ
อนาลอก (Analog Signal) แต่ในปัจจุบันสัญญาณโทรคมนาคมกำลังจะกลายเป็นการถ่ายทอดสัญญาณในรูปแบบ
ดิจิตอล (Digital Signal) ทั้งหมด
1.เครือข่ายสังคมออนไลน์
หมายถึงเว็บไซต์ให้บริการผู้ใช้ให้สามารถสร้างเว็บ โฮมเพจของตน
2.โซเชียลคอมเมิรซ์
คือการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในการค้าขาย
4. จงอธิบายการทำงานกับการใช้ข่าวสาระบบฐานเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
ตอบ 1.การปฏิรูปการทำงานกับการใช่ข่าวสารบนฐานเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
1.1
การปฏิรูปรูปแบบการทำงานขององค์กร
เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการปฏิรูปรูปแบบของการทำงาน เช่น
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสื่อสารกันในองค์กรด้วย อีเมล กรุ๊ปแวร์
1.2 มีการจัดการเชิงกลยุทธ์
เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนำมาใช้ในการสนับสนุนการจัดการเชิงกลยุทธ์ขององค์กรเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
1.3
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการทำงาน เพื่อให้การทำงานคล้องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1.4
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างคุณค่าให้กับองค์กรในอนาคตเทคโนโลยีสารสนเทศจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับองค์กร
2.การปรับตัวขององค์กรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง
การพัฒนาเทคโนโลยีขององค์การจะขึ้นอยู่กับผู้บริการเป็นสำคัญ
โดยที่ผู้บริหารองค์กรจะต้องเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้
2.1
ทำความเข้าใจต่อบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อธุรกิจปัจจุบัน
เพื่อให้สามารถนำความรู้ต่างๆมาประยุกต์ใช้กับงานที่กำลังทำอยู่
2.2 วางแผนระบบสารสนเทศ
เองให้การดำเนินการสร้างหรือพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นไปตามวัตถุประสงค์ขององค์กรภายใต้งบประมาณและระยะเวลาที่กำหนดไว้
2.3
พัฒนาระบบสารสนเทศเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลหรือความรู้ขององค์กรนักวิเคราะห์ระบบและผู้ใช้จะศึกษาหรือพิจารณาถึงข้อมูลและข่าวสารต่างๆ
ที่องค์กรต้องการและใช้ในการดำเนินงานอยู่ประจำ
2.4
พัฒนาศักยภาพของบุคคลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ให้มีความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี